"Rebel Moon" ของแซ็ก สไนเดอร์ ถล่มทลาย และได้รับอนุมัติเพียง 19% สำหรับมะเขือเทศเน่า"

ในการเปิดตัวที่ทุกคนตั้งตารอคอย ผลงานล่าสุดของแซ็ค สไนเดอร์เรื่อง "Rebel Moon" ได้โจมตีแพลตฟอร์มสตรีมมิ่ง Netflix ด้วยเสียงที่ดังกึกก้อง ภาพยนตร์นิยายวิทยาศาสตร์ทั้งเขียนบทและกำกับโดยสไนเดอร์ ได้รับความนิยมจากนักวิจารณ์ โดยได้รับเรตติ้งการอนุมัติจาก Rotten Tomatoes เพียง 19% เมื่อเข้าฉายในวันที่ 15 ธันวาคม

นักวิจารณ์ภาพยนตร์ เอ็ดเวิร์ด เดาบลาส ไม่ได้พูดอะไรสักคำ โดยประกาศว่าเป็น "หนึ่งในสิ่งที่เลวร้ายที่สุดของสไนเดอร์ในปัจจุบัน" ตามคำบอกเล่าของ Doublas ภาพยนตร์เรื่องนี้มีลักษณะเฉพาะที่ "น่าเบื่อและลอกเลียน โดยแทบไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าภาค 2 มีอยู่จริง ดังนั้น จึงเป็นการเสียเวลาและเงินอย่างน่ากลัว"

คาเมรอน ฟรูว์ จาก Dexerto สะท้อนความรู้สึกเหล่านี้ โดยมองว่า "Rebel Moon" เป็น "การเลียนแบบที่ล้มเหลวในการแกะสลักพื้นที่ของตัวเองในมรดกของนิยายวิทยาศาสตร์บนจอใหญ่" คำวิจารณ์ยังเจาะลึกถึงองค์ประกอบภาพของภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วย โดยคลาริสซี ลัฟเรย์จาก Independent (สหราชอาณาจักร) อธิบายว่ามันเป็น "ภาพยุ่งเหยิง บางคนพยายามทำให้ตกใจ โดยส่วนใหญ่มีศูนย์กลางอยู่ที่แนวคิดที่ว่าสิ่งที่อาจดูดีในตัวอย่างภาพยนตร์"

เดิมที "Rebel Moon" ได้รับการสร้างสรรค์โดยสไนเดอร์เมื่อกว่าทศวรรษที่แล้วให้เป็นภาพยนตร์สตาร์ วอร์ส ก่อนที่ดิสนีย์จะเข้าซื้อกิจการลูคัสฟิล์มในปี 2012 ภาพยนตร์เรื่องนี้แบ่งออกเป็นสองส่วน โดยมีฉาก "Rebel Moon – ตอนที่ 1: เด็กสาวแห่งไฟ" มีกำหนดฉายทาง Netflix วันที่ 21 ธันวาคม และ "Rebel Moon – Part 2: The Scar Marker" มีกำหนดฉายวันที่ 19 เมษายน 2024

แม้จะมีบทวิจารณ์ที่รุนแรงในภาคแรก แต่สไนเดอร์ก็เจาะลึกบทภาพยนตร์เรื่องที่สามของซีรีส์นี้แล้ว ในขณะที่ส่วนที่สองอยู่ระหว่างขั้นตอนหลังการถ่ายทำ นักแสดงก็มีคนดังมากมาย เช่น โซเฟีย บูเทลลา, จิมอน ฮอนซู, เอ็ด สไครน์, มิเชล เฮาส์แมน, แบ ดูนา, เรย์ ฟิชเชอร์, แครี เอลเวส, คอเรย์ สโตลล์, เจน่า มาโลน และฟรา ฟี พร้อมด้วย Charlie Hunnam และ Anthony Hopkins ให้เสียงพากย์

"Rebel Moon" เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นบริเวณขอบกาแล็กซี ที่ซึ่งอาณานิคมอันเงียบสงบต้องเผชิญกับภัยคุกคามจากกองทัพของผู้ปกครองผู้เผด็จการบาลิซาเรียส อาณานิคมส่งหญิงสาวชื่อโคระไปขอความช่วยเหลือจากนักรบบนดาวเคราะห์ใกล้เคียงในการต่อสู้กับการกดขี่

ในขณะที่ผู้ชมตั้งตารอการเปิดตัวภาคแรกในวันที่ 21 ธันวาคมอย่างใจจดใจจ่อ ก็ต้องรอดูกันว่าภาคต่อในเดือนเมษายน 2024 จะสามารถกอบกู้ชื่อเสียงของภาพยนตร์เรื่องนี้ในสายตาของทั้งนักวิจารณ์และผู้ชมได้หรือไม่

Partager cet article

Commentaires

Inscrivez-vous à notre newsletter