Samsung ลงทุน 20 ล้านเหรียญสหรัฐใน GPU AMD MI300X เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับการฝึกอบรม AI
Samsung ได้ก้าวไปอีกขั้นในด้านการพัฒนาปัญญาประดิษฐ์ (AI) ด้วยการซื้อ GPU AMD Instinct MI300X มูลค่า 20 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนแปลงเชิงกลยุทธ์ในโครงสร้างพื้นฐานศูนย์ข้อมูล การเคลื่อนไหวครั้งนี้เน้นย้ำถึงความตั้งใจของ Samsung ที่จะนำโซลูชันที่คุ้มต้นทุนมากขึ้นมาใช้สำหรับการขับเคลื่อนการดำเนินงาน AI เนื่องจาก Samsung ต้องการที่จะหลีกหนีจากการพึ่งพา GPU ของ NVIDIA ที่มีราคาแพงขึ้นเรื่อยๆ
### ความร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับ AMD
การซื้อจาก AMD ครั้งนี้ถือเป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่า Samsung กำลังมองหาวิธีเพิ่มประสิทธิภาพอัตราส่วนต้นทุนต่อประสิทธิภาพ ในอดีต Samsung พึ่งพา NVIDIA สำหรับความต้องการ GPU ที่เกี่ยวข้องกับ AI แต่ด้วย GPU H100 ของ NVIDIA ที่มีราคาอยู่ระหว่าง 30,000 ถึง 40,000 เหรียญสหรัฐต่อหน่วย ยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีของเกาหลีใต้จึงดูเหมือนจะมองหาตัวเลือกที่ราคาไม่แพงกว่า ในทางกลับกัน GPU MI300X ของ AMD มีราคาอยู่ที่ประมาณ 10,000 เหรียญสหรัฐต่อตัว ซึ่งทำให้ Samsung สามารถเข้าซื้อ GPU ได้ประมาณ 2,000 ตัวด้วยการลงทุน 20 ล้านเหรียญสหรัฐ
แม้ว่า GPU ของ AMD จะมีราคาถูกกว่ามาก แต่ก็ไม่ได้ลดทอนประสิทธิภาพลง MI300X มีคุณสมบัติที่น่าประทับใจ เช่น โปรเซสเซอร์สตรีม 19,456 ตัว หน่วยการคำนวณ 304 หน่วย และหน่วยความจำแบนด์วิดท์สูง (HBM3) 192 GB ทำให้สามารถจัดการกับภาระงาน AI ที่เข้มข้นได้ ความก้าวหน้าทางเทคนิคเหล่านี้ทำให้ MI300X ของ AMD กลายเป็นทางเลือกที่มีการแข่งขันสูงในตลาด GPU AI
### การแก้ไขปัญหาห่วงโซ่อุปทาน
การเปลี่ยนทิศทางของ Samsung ไปสู่ AMD ดูเหมือนจะได้รับอิทธิพลจากการหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทานเมื่อเร็วๆ นี้ ซึ่งส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อความพร้อมใช้งานของ GPU ของ NVIDIA รายงานจากภายใน Samsung ระบุว่าความต้องการฮาร์ดแวร์ AI ที่เพิ่มสูงขึ้นทำให้เกิดปัญหาคอขวดในการเข้าถึง GPU H100 ของ NVIDIA พนักงานต้องเผชิญกับรายชื่อรอคอยที่ยาวนานเพื่อเข้าถึงหน่วยประมวลผลอันทรงพลังเหล่านี้ โดยมี GPU เพียง 16 ตัวที่พร้อมให้ใช้งานในครึ่งหลังของปี 2023
ในทางตรงกันข้าม ความร่วมมือระหว่าง AMD และ Samsung คาดว่าจะช่วยให้มีอุปทาน GPU ที่เสถียรยิ่งขึ้นในอนาคต ทั้งสองบริษัทมีข้อตกลงร่วมกันอยู่แล้ว โดยที่ Samsung จัดหาหน่วยความจำ HBM3 ให้กับ AMD และในทางกลับกัน AMD รับประกันการไหลของ GPU MI300X ที่สม่ำเสมอสำหรับความต้องการของ Samsung ข้อตกลงนี้คาดว่าจะช่วยให้ Samsung หลีกเลี่ยงความล่าช้าและการขาดแคลนที่เคยประสบกับ NVIDIA มาก่อน ทำให้มั่นใจได้ว่าการดำเนินการพัฒนา AI จะราบรื่นยิ่งขึ้น
### การใช้ GPU AMD MI300X ในอนาคตในระบบนิเวศ AI ของ Samsung
แม้ว่ารายละเอียดเฉพาะเกี่ยวกับวิธีที่ Samsung วางแผนที่จะใช้ GPU MI300X ที่เพิ่งได้รับมาใหม่จะยังไม่เปิดเผย แต่มีการคาดเดากันอย่างกว้างขวางว่า GPU ส่วนใหญ่จะอุทิศให้กับการฝึกอบรมและพัฒนา AI เนื่องจาก AI กลายเป็นศูนย์กลางของกลยุทธ์การตลาดของ Samsung มากขึ้น โดยเฉพาะในแพลตฟอร์ม Galaxy AI การลงทุนในฮาร์ดแวร์ที่ล้ำสมัยนี้จึงถือเป็นองค์ประกอบสำคัญต่อความสำเร็จในอนาคต
ผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์แนะนำว่า Samsung จะทำการทดสอบและประเมินประสิทธิภาพของหน่วย MI300X ก่อนทำการรวมเข้าในศูนย์ข้อมูลอย่างเต็มรูปแบบ GPU ชุดแรกได้รับการส่งมอบเพื่อทำการทดสอบแล้ว และเมื่อผ่านการตรวจสอบประสิทธิภาพแล้ว คาดว่า Samsung จะค่อยๆ ติดตั้ง GPU เหล่านี้ในศูนย์ข้อมูล AI การเปลี่ยนแปลงนี้ต้องใช้เวลา แต่เป็นสัญญาณของความก้าวหน้าครั้งสำคัญในความสามารถ AI ของ Samsung
### ภูมิทัศน์การแข่งขัน: AMD เทียบกับ NVIDIA
การเปลี่ยนแปลงในกลยุทธ์การจัดซื้อของ Samsung เน้นย้ำถึงแนวโน้มใหม่ในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี ซึ่งบริษัทต่างๆ กำลังพิจารณาทางเลือกอื่นแทน NVIDIA มากขึ้นเนื่องจากต้นทุนที่เพิ่มขึ้นและปัญหาด้านอุปทาน AMD ซึ่งมี GPU MI300X ที่มีราคาแข่งขันได้ กำลังวางตำแหน่งตัวเองอย่างรวดเร็วในฐานะคู่แข่งที่มีศักยภาพในตลาดฮาร์ดแวร์ AI
แม้ว่า NVIDIA จะยังคงครองตลาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับ GPU H100 ที่เป็นผู้นำในอุตสาหกรรม แต่ MI300X ของ AMD ก็ยังเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับธุรกิจที่กำลังมองหาโซลูชันประสิทธิภาพสูงโดยไม่ต้องเสียเงินมากเกินไป ความสามารถของ MI300X ในการจัดการเวิร์กโหลด AI ขนาดใหญ่ด้วยความสามารถในการประมวลผลขั้นสูง ทำให้เป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับบริษัทอย่าง Samsung ที่ต้องการปรับขนาดการดำเนินการ AI อย่างรวดเร็วและคุ้มต้นทุน
### มองไปข้างหน้า: บทบาทที่เพิ่มขึ้นของ AI ในกลยุทธ์ของ Samsung
เนื่องจาก AI ยังคงมีบทบาทสำคัญเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และข้อเสนอบริการของ Samsung การเข้าซื้อ GPU MI300X ของ AMD แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของบริษัทในการรักษาความสามารถในการแข่งขันในพื้นที่นี้ ยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีรายนี้กำลังเพิ่มการมุ่งเน้นไปที่นวัตกรรมที่ขับเคลื่อนด้วย AI ในผลิตภัณฑ์ต่างๆ ตั้งแต่สมาร์ทโฟนไปจนถึงเครื่องใช้ในบ้าน และการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน AI ครั้งนี้คาดว่าจะช่วยเพิ่มความสามารถในการพัฒนาโซลูชันที่ขับเคลื่อนด้วย AI ที่ซับซ้อนยิ่งขึ้น